รักแท้.! ผัวตายเกือบ 2 เดือนไม่ยอมบอกใคร - สวดคืนเดียวเผาเลย ถึงจะเป็นเถ้าก็ขออยู่ที่เดิมกับกระดูก แล้วพูดมา 1 ประโยคทำเอาน้ำตาซึม!

พี่ชายนำศพน้องชายที่พบแห้งกรังในบ้านหลังจากตายมากว่า 1 เดือน แล้วเมียไม่ยอมบอกใคร ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใน อ.สามพราน ชาวบ้านเวทนารวบรวมเงินกันให้ซื้อโลงใส่ สวดคืนเดียวเผาเลย ส่วนเมียยังยืนยันจะอยู่ที่เดิมกับเถ้ากระดูกสามี...     

หลังจากที่ ‘ไทยรัฐ’ ได้นำเสนอข่าว น.ส.สุนภา นามกร อายุ 50 ปี นอนเฝ้าศพแห้งกรัง นายวิเชียร สุขเจริญ อายุ 47 ปี สามีที่เสียชีวิตจากโรควัณโรค เมื่อเกือบ 2 เดือนก่อน อยู่ในบ้านที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยไม่ยอมแจ้งการตายให้ผู้ใดทราบ ทำความสะอาดให้กับศพ หาข้าวอาหารมาวางให้ จนกระทั่งเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อนายชนะ สุขเจริญ อายุ 52 ปี พี่ชายผู้ตายเดินทางมาจาก จ.เพชรบุรี เพื่อมาเยี่ยมหาน้องชาย และเข้าขอความช่วยเหลือจากตำรวจ ให้เข้าตรวจสอบภายในบ้าน เนื่องจากน้องสะใภ้ไม่ยอมให้เขาบ้าน จนพบศพในสภาพแห้งเหี่ยว แต่ถูกเช็ดตัวทำความสะอาดอย่างดี โดยที่ น.ส.สุนภา ภรรยาผู้ตาย ยอมรับว่า สาเหตุที่ไม่แจ้งให้ใครทราบ และเก็บศพไว้เพราะมีความรักและผูกพันกันมาก ไม่อยากพรากจากกัน 

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ส.ค.58 ที่วัดเทียนดัด ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พี่ชาย และภรรยา ในฐานะเจ้าภาพ ได้นำศพนายวิเชียร สุขเจริญ อายุ 47 ปี ไปตั้งบำเพ็ญกุศล จัดงานศพเรียบง่าย โดยมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงและชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด เดินทางมาร่วมพิธีศพ พร้อมกับนำเงินใส่ซองมอบให้เพื่อใช้ซื้อโลงศพและเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงาน ศพ

นายชนะ ได้กล่าวกับแขกที่มาร่วมงานว่า ขอขอบคุณทุกคน ทั้งๆ ที่บางคนมาร่วมงานโดยไม่รู้จักกันเลย ครอบครัวของตนยากจน และภรรยาของผู้ตายก็ยากจน ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ไม่มีเงินที่จะทำศพให้ใหญ่โต ทำเท่าที่ทำได้ในฐานะพี่ชาย สำหรับพิธีสวดอภิธรรมจะมีเพียงคืนเดียว และวันที่ 26 ส.ค.นี้ เวลา 16.00 น. จะฌาปนกิจศพน้องชายเลย ส่วนเถ้ากระดูกจะมอบให้ภรรยาไป จะเก็บหรือลอยอังคารก็สุดแล้วแต่ หลังจากเสร็จจากงานศพตนก็จะเดินทางกลับเพชรบุรีเนื่องจากมีครอบครัวที่ต้อง ดูแลอยู่ทางโน้น

ขณะเดียวกัน นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.นครปฐม ได้มอบหมายให้ นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายอำเภอสามพราน นำเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สามพราน หน่วยแพทย์จาก รพ.สามพราน และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นครปฐม เข้าไปตรวจสอบบ้านของ น.ส.สุนภา ที่สามีเสียชีวิตจากการป่วยเป็นวัณโรค ให้สาธารณสุขนำน้ำยาไปฉีดพ่นเพื่อป้องกันโรคระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งใน บ้าน และบริเวณรอบบ้าน พร้อมกับให้แพทย์ตรวจสอบสภาพจิตของ น.ส.สุนภา เพื่อฟื้นฟูจิตใจ และตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพราะ น.ส.สุนภา คลุกคลีอยู่กับผู้ตายหลายวัน ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นวัณโรคนั้นสามารถติดต่อได้หลายทาง ส่วนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ดูแลด้านความเป็นอยู่และสภาพจิตใจไปพร้อมๆ กัน เนื่องจาก น.ส.สุนภา ไม่มีอาชีพ เป็นเพียงคนเฝ้าดูแลบ้าน ไม่มีรายได้อะไร นอกจากนี้ ยังให้หน่วยกาชาด จ.นครปฐม นำสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปให้ด้วย

นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายอำเภอสามพราน ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เผยว่า จากการที่ได้พูดคุยกับ น.ส.สุนภา ภรรยาของผู้ตาย เท่าที่สังเกตดูยังมีอาการเหม่อลอย สอบถามอะไรก็เอาแต่ร้องไห้ คิดว่าขณะนี้ยังทำใจไม่ได้ เมื่อต้องแยกจากสามี จึงต้องคอยดูแลด้านจิตใจ ในส่วนของคดีที่ไม่มีแจ้งการเสียชีวิต ภายใน 24 ชั่วโมงให้กับทางราชการทราบ ซึ่งตามกฎหมายมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท นั้น ถามว่าผิดไหม ตอบว่าผิด

"แต่เมื่อดูจากการกระทำแล้วน่าเวทนามาก เมื่อสอบถาม น.ส.สุนภาก็เล่าทั้งน้ำตาว่า ไม่อยากให้สามีตาย พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้สามีมีชีวิตอยู่ แต่เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ ไม่มีเงิน สามีก็ไม่ได้ทำงาน สามีจึงไม่ยอมไปหาหมอตรวจ สำหรับเรื่องคดีนั้นผมจะจ่ายค่าปรับให้กับ น.ส.สุนภาเอง และจะสอบถามหากต้องการอยู่ที่บ้านหลังเดิม ก็จะคอยส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลเยี่ยมเยียน หากต้องการที่จะกลับบ้านที่ ต.ท่าข้าม อ.สามพราน ก็จะจัดหารถไปส่งให้ ส่วนบ้านที่อยู่หลังนี้จะแจ้งให้เจ้าของบ้านที่ จ.จันทบุรี ส่งคนใหม่มาดูแล" นายอำเภอสามพราน กล่าว

ขณะที่ น.ส.สุนภา ภรรยาผู้ตาย ยังคงร้องไห้อยู่ตลอด กล่าวว่า ใจจริงแล้วยังอยากอยู่กับสามีที่ตายไปอย่างนี้ตลอดไป จนกว่าจะตายตามกันไป แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ก็ต้องทำใจ ยอมให้นำศพไปจัดการตามประเพณี ส่วนเรื่องเถ้ากระดูกของสามีนั้นคิดว่าจะเก็บเอาไว้ก่อน และจะยังอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปก่อน แต่จะทำอย่างไรต่อไปยังไม่รู้ เพียงแต่อยากแสดงออกให้รู้ว่าตนรักสามีมาก ถึงแม้จะมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่ถึง 10 ปี แต่ความผูกพันก็มีให้กันและกันอย่างมาก และจะพยายามทำใจให้ได้ ‘ตอนนี้เขาแยกพี่จากไปแล้ว แต่เราจะรักกันจนวันตาย’ น.ส.สุนภา กล่าวด้วยน้ำตานองหน้า

เครดิต : innnews